ฉลากกันปลอมทั่วไปยังอาจโดนปลอมได้
ต้องใช้ระบบ QR Code ช่วย แม้ทุกวันนี้หลาย ๆ แบรนด์จะพยายามมองหาวิธีป้องกันเพื่อไม่ให้สินค้าของตนเองโดนปลอมแปลง จนอาจนำมาสู่ข้อเสียหลายประการ แต่ลำพังแค่การพิมพ์ “ฉลากกันปลอม” ทั่ว ๆ ไปที่มาจากกระดาษโฮโลแกรม อาจไม่เพียงพอ เพราะอย่าลืมว่ามิจฉาชีพเองก็มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและพยายามทำออกมาให้เหมือนจริงมากที่สุด ดังนั้นหนึ่งในวิธีที่พร้อมช่วยแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้แบบไร้กังวลนั่นคือการนำเอาระบบ QR Code เข้ามาเป็นผู้ช่วย เจ้าของแบรนด์ทั้งหลายจึงต้องรู้และศึกษาให้เข้าใจ
รู้หรือไม่ “ฉลากกันปลอม” ทั่วไปยังมีโอกาสโดนปลอมแปลงได้อยู่
เดิมทีการพิมพ์ “ฉลากกันปลอม” จะนิยมใช้ประเภทของสติ๊กเกอร์ที่เรียกว่า “สติ๊กเกอร์โฮโลแกรม” ซึ่งจะมีความเงางาม ระยิบระยับ ดูโดดเด่นสะดุดตา อีกทั้งยังสามารถพิมพ์ทับซ้อน หรือพิมพ์ให้ออกมาในลักษณะ 2 มิติ และ 3 มิติ ได้อย่างง่ายดาย ซึ่งในอดีตวิธีนี้ถือเป็นเทคนิคป้องกันการโดนปลอมแปลงที่มีคุณภาพสูงมาก เหตุเพราะคุณสามารถสังเกตโลโก้ของสินค้าหรือแบรนด์นั้น ๆ ได้เลยว่ามีลักษณะแบบเดียวกับที่แบรนด์โฆษณาเอาไว้หรือไม่
แต่ในปัจจุบันเมื่อเทคโนโลยีพัฒนามากขึ้น ลำพังแค่การใช้สติ๊กเกอร์โฮโลแกรมแบบเดิม ๆ จึงอาจมีการถูกเลียนแบบได้ง่ายมากขึ้น ผลเสียที่ตามมาคือแม้มิจฉาชีพจะไม่ได้ปลอมโลโก้ดังกล่าวเหมือนกับของแท้ 100% แต่ต้องยอมรับว่ามีความใกล้เคียงและหากมองผ่าน ๆ ก็แทบเหมือนของจริงเลยด้วยซ้ำ ดังนั้นโอกาสที่ของปลอมจะออกสู่ตลาดและถึงมือผู้บริโภคจึงเกิดขึ้นได้เช่นกัน
เลือกใช้งาน “ฉลากกันปลอม” ผ่านระบบ QR Code มั่นใจปลอดภัย 100%
เมื่อมิจฉาชีพมีการพัฒนามากขึ้น ทุกคนในฐานะของการเป็นเจ้าของแบรนด์ก็ต้องเดินให้เร็วขึ้นอีกก้าวเพื่อสร้างความมั่นใจว่าสินค้าของคุณจะไม่มีโอกาสโดนปลอมแปลง พร้อมทั้งยังคงวางขายในท้องตลาดได้อย่างมีคุณภาพ ไม่เสียภาพลักษณ์และเสื่อมเสียชื่อเสียง ด้วยเหตุนี้วิธีอันแสนง่ายดายมากที่สุดจึงขอแนะนำให้เลือกใช้การทำ “ฉลากกันปลอม” ผ่านระบบ QR Code
หากอธิบายแบบเข้าใจง่ายคือ การทำฉลาก QR Code ป้องกันการปลอมแปลงสินค้าจะใช้รูปแบบการพิมพ์รหัสที่แตกต่างกันออกไปตามประเภทสินค้าหรือแบรนด์นั้น ๆ บวกกับการนำอัลกอริทึมพิเศษที่ไม่สามารถตรวจสอบหารายละเอียดจากต้นทางได้ เมื่อลูกค้าทำการสแกนเพื่อเช็กข้อมูลครั้งแรกเรียบร้อย ก็จะสแกนในครั้งถัด ๆ ไปไม่ได้อีกเลย บ่งบอกให้รู้ว่าสินค้าที่ได้รับเป็นของแท้ เพิ่มความมั่นใจก่อนใช้งานจริง ไม่ต้องห่วงเรื่องโดนหลอกหรืออาจสร้างผลข้างเคียงกับร่างกายเมื่อใช้งานนั่นเอง
ปัจจัยสำคัญที่การใช้งานฉลากกันปลอม ระบบ QR Code จึงตอบโจทย์มาก
เพื่อให้ผู้ผลิตหรือเจ้าของแบรนด์หายสงสัย ลองนำเอาปัจจัยเหล่านี้ไปเป็นตัวพิจารณาเพื่อจะได้เข้าใจมากขึ้นกว่าการเลือกใช้งาน ฉลากกันปลอมระบบ QR Code ตอบโจทย์ความต้องการทั้งกับแบรนด์และผู้บริโภคมากที่สุด
- มั่นใจว่ามิจฉาชีพปลอมแปลงไม่ได้แน่นอน
อย่างที่บอกไปว่าระบบการพิมพ์รหัส QR Code ของแต่ละแบรนด์ หรือสินค้าจะมีความแตกต่างกันออกไป มีการทำรหัสไม่ให้เหมือนกัน รวมถึงการใช้อัลกอริทึมพิเศษที่ไม่สามารถค้นหาต้นทางของข้อมูลได้ มิจฉาชีพจึงไม่มีทางนำเอาข้อมูลดังกล่าวไปปลอมแปลงว่าของตนเองเป็นของแท้อย่างแน่นอน มั่นใจได้ 100% เลย - ตรวจสอบง่าย ไม่มีความยุ่งยากใด ๆ
หากเป็นยุคก่อนการใช้สติ๊กเกอร์โฮโลแกรม ลูกค้าอาจต้องคอยสังเกตอย่างละเอียดว่าสินค้าที่ซื้อเป็นของจริงหรือไม่ รวมถึงระบบการขูดรหัส การขูดบัตรกันปลอม ต้องเสียเวลาในการนำโค้ดมากรอกกับหน้าเว็บไซต์เพื่อเช็กข้อมูล แต่พอเปลี่ยนมาเป็นระบบ QR Code เมื่อทุกคนมีมือถือกันหมดแค่เปิดกล้องมือถือ หรือเปิดแอปพลิเคชัน Line ไม่ก็ WeChat จากนั้นก็เปิดการสแกน QR เพื่อสแกนรหัสที่อยู่บนตัวผลิตภัณฑ์หรือบรรจุภัณฑ์ เพียงแค่นี้ก็รู้ทันทีว่าเป็นของแท้หรือของปลอมกันแน่ - เพิ่มมูลค่าสินค้าได้ในแบบที่คุณคาดไม่ถึง
ยิ่งถ้าคุณผลิตสินค้าที่มีมูลค่าสูง เช่น เครื่องสำอาง น้ำหอม เสื้อผ้า เครื่องประดับใด ๆ ก็ตาม เมื่อมีการนำเอาฉลากกันปลอม ระบบ QR Code มาให้ลูกค้าได้ทำการสแกนและยืนยันว่าสิ่งที่คุณขายเป็นของแท้ 100% ยังช่วยเพิ่มมูลค่าสินค้าเสมือนเป็นการรับประกันไปในตัวได้อีกทาง นอกจากสร้างภาพลักษณ์ที่ดี คงยอดขายเอาไว้ได้ตามปกติ ยังเพิ่มผลกำไรที่จะได้รับกลับคืนมาอีกต่างหาก - ไม่ส่งผลเสียต่อแบรนด์ในระยะยาว
ท้ายที่สุดหากคุณนำเอาเทคโนโลยีดี ๆ มาใช้งานแบบนี้ หมดปัญหาเรื่องการโดนปลอมแปลงก็เท่ากับแบรนด์ยังคงอยู่ในตลาดต่อไปได้อย่างไม่ต้องกังวล จึงไม่ส่งผลเสียใดตามมากับแบรนด์ในระยะยาวอย่างแน่นอน คุณสามารถผลิตสินค้าชนิดอื่นเพิ่มเติมเพื่อวางขายได้เลย ไม่มีปัญหาการโดนปลอมหรือก็อปปี้ใด ๆ ทั้งสิ้น
QR Code จะช่วยสร้างความมั่นใจต่อผู้บริโภค
เมื่อรู้แบบนี้แล้วแบรนด์ไหนยังคงเลือกใช้ฉลากกันปลอมแบบเดิม ๆ อยู่ ลองเปลี่ยนมาเป็นการใช้ระบบ QR Code จะช่วยสร้างความมั่นใจต่อผู้บริโภคว่าพวกเขาได้รับของดีและคุ้มค่ากับการลงทุนซื้ออย่างแน่นอน ไม่ใช่แค่ลดการโดนปลอมแปลงเท่านั้น แต่ยังช่วยเพิ่มมูลค่าและสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับแบรนด์ระยะยาวอีกด้วย นอกจากไม่เสียต้นทุนแพงยังรับผลลัพธ์ชั้นเยี่ยมกลับคืนมาอีกเยอะมาก
